สำนักงาน ก.ล.ต. ไม่ได้ปล่อยลิงก์ แจก Airdrop แต่อย่างใด

สำนักงาน ก.ล.ต. ไม่ได้ปล่อยลิงก์ แจก Airdrop แต่อย่างใด

จากข่าวที่ว่าทาง สำนักงาน ก.ล.ต. ทำการปล่อยลิงก์ที่จะทำการแจกเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ Airdrop นั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด (2 ก.ค. 2565) ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องเพจเฟซบุ๊ก สำนักงาน ก.ล.ต. มีลิงก์เชื่อมไปเว็บไซต์ที่เสนอแจก Airdrop เหรียญคริปโท ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

จากที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อออนไลน์ว่าเพจเฟซบุ๊กสำนักงาน ก.ล.ต. 

มีลิงก์เชื่อมไปเว็บไซต์ที่เสนอแจก Airdrop เหรียญคริปโททางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า เพจเฟซบุ๊กและข้อความดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้องกับสำนักงาน ก.ล.ต. และเป็นการแอบอ้างใช้ชื่อ โลโก้ แบนเนอร์ ของสำนักงาน ก.ล.ต. โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งผู้ที่พบเห็นข้อความหรือรับทราบข้อมูลดังกล่าว อาจหลงเชื่อว่าเป็นข้อมูลที่มาจากสำนักงาน ก.ล.ต. และอาจเกิดความเสียหายได้

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ

เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง ก่อนตัดสินใจลงทุน สามารถตรวจสอบว่า ผู้ที่ชักชวน/ผู้ให้บริการ ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน ก.ล.ต. หรือไม่ โดยตรวจสอบที่ www.sec.or.th/licensecheck หรือ ติดตั้งแอปพลิเคชัน SEC Check First เพื่อตรวจสอบข้อมูลได้ทันที และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจาก สำนักงาน ก.ล.ต. สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.sec.or.th หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ โทร 1207

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : เพจเฟซบุ๊กและข้อความดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้องกับสำนักงาน ก.ล.ต. และเป็นการแอบอ้างใช้ชื่อ โลโก้ แบนเนอร์ ของสำนักงาน ก.ล.ต. โดยไม่ได้รับอนุญาต

หน่วยงานที่ตรวจสอบ : สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

ในกรณีที่ผู้กู้ยืมเงินจากทาง กยศ. คนไหนผิดนัดชำระหนี้ ก็จะต้องเสียค่าปรับหรือค่าธรรมเนียมจัดการในอัตรา 7.5% ต่อปี ของเงินต้นงวดที่ค้างชำระ และหากค้างชำระเป็นเวลานานอาจถูกดำเนินคดีได้ และอาจกลายเป็นเหตุให้ถูกยึดทรัพย์ในที่สุด ดังนั้นหาผู้กู้ยืมรู้ตัวว่าจะไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามที่ทางกองทุนกำหนดไว้ ก็ให้ดำเนินการขอผ่อนผันชำระหนี้โดยเร็ว เพื่อป้องกันการถูกดำเนินคดี

สำหรับใครที่เคยทำการกู้ยืมเงินผ่านกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. ก็อย่าลืมชำระหนี้ภายในวันที่ 5 กรกฎาคม 2565 นี้กันด้วย เพื่อเป็นส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้กับรุ่นน้องต่อไป และเพื่อป้องกันไม่ให้ตนเองต้องถูกดำเนินคดีหรือยึดทรัพย์ในภายหลัง หากมีข้อสงสัยสามารถติดตามรายละเอียดข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) หรือเบอร์โทรศัพท์ 0 2016 4888

กองสลาก เผยผลการจำหน่าย สลากดิจิทัล งวด 16 กรกฎาคม 2565 – หมดแล้ว

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้เปิดเผยถึงผลการจำหน่าย สลากดิจิทัล ประจำงวดวันที่ 16 กรกฎาคม 2565 โดยในเวลานี้ได้จำหน่ายหมดแล้ว เมื่อวานนี้ (3 กรกฎาคม 2565) เวลา 11.00 น. นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า การจำหน่ายสลากผ่านแอปเป๋าตัง หรือ สลากดิจิทัล งวดวันที่ 16 กรกฎาคม 2565 ซึ่งเป็นการจำหน่ายงวดที่สามจำนวน 5,146,000 ฉบับ ขณะนี้ ได้จำหน่ายหมดแล้ว มีผู้ซื้อจำนวน 888,637 ราย การจำหน่ายสลากหมดลงอย่างรวดเร็วกว่าที่คาดไว้ ผลตอบรับเป็นไปด้วยดี

เนื่องจากสามารถซื้อสลากตัวเลขที่ต้องการในราคา 80 บาทได้จริง และสลากที่ซื้อก็มีการบันทึกข้อมูล ไว้แสดงสิทธิในตัวสลาก ทำให้ไม่ต้องกังวลหากสลากหาย หรือการเรียกร้องสิทธิในตัวสลาก และเมื่อถูกรางวัล จะมีการแจ้งเตือนผ่านแอปเป๋าตัง ประกอบกับขั้นตอนการรับรางวัลที่สะดวก ง่าย ไม่ยุ่งยาก

โดยในงวดที่ผ่านมา มีรางวัลที่ 1 ถึง 6 รางวัล เงินรางวัลรวม 36 ล้านบาท ที่สำคัญมีคนถูกรางวัลที่ 1 คนเดียวถึง 3 ใบ ได้รางวัล 18 ล้านบาท ส่วนที่เหลือมีการกระจายถูกรางวัลคนละ 1 ใบ รางวัลละ 6 ล้านบาท

ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับงวดวันที่ 1 สิงหาคม 2565 สำนักงานสลากฯ จะเพิ่มสลากจำหน่ายผ่านระบบดิจิทัลอีก 2 ล้านฉบับ รวมแล้วไม่น้อยกว่า 7 ล้านฉบับ เพื่อให้ผู้ซื้อมีเวลาในการเลือกซื้อสลากหมายเลขที่ต้องการในราคา 80 บาทได้นานขึ้น

สำหรับการพิจารณาเพิ่มปริมาณสลากในระบบแต่ละครั้ง จะต้องเป็นไปตามความต้องการของตลาด และรักษาสมดุลระหว่างผู้ค้าในระบบเก่าและระบบดิจิทัลด้วย ส่วนสลากที่จะนำมาเพิ่มในระบบดิจิทัลนั้น จะมาจากสลากในระบบซื้อจอง ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากสลากของตัวแทนจำหน่ายที่ถูกยกเลิกสัญญาเนื่องจากนำสลากไปขายต่อ

นายลวรณ กล่าวในตอนท้ายว่า นอกจาก สลากที่จำหน่ายผ่านแอปเป๋าตังในระบบแพลตฟอร์มได้แล้ว ยังมีจุดจำหน่ายสลาก 80 ที่สำนักงานสลากฯ เริ่มดำเนินการมาเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้ว เป็นการจำหน่ายผ่านแอปเป๋าตังเช่นกัน ขณะนี้ มีจุดจำหน่ายกระจายอยู่ทั่วประเทศ ทั้งหมด 754 จุด ทั่วประเทศ และตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป จะมีจุดจำหน่ายสลาก 80 ทั่วประเทศ 1077 จุด

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า